เต่าปูลู เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน ดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
เต่าปูลูเป็นเต่าใกล้สูญพันธุ์ในระดับโลก จากข้อมูล IUCE Red List จัดอยู่ในสถานะ Critrically Endangered ซึ่งมีประชากรลดลงกว่า 90% ในช่วง 90 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากถิ่นที่อยู่อาศัยถูกทำลาย แหล่งน้ำที่สะอาดถูกทำลาย ซึ่งเต่าปูลูจะต้องใช้ถิ่นที่อยู่อาศัยที่จำเพาะ ไม่มีสารเคมีเจือปนในแหล่งน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์สูง ปัจจุบันกิจกรรมของมนุษย์หลายอย่างได้ทำลายถิ่นที่อยู่อาศัยและล่าเต่าปูลู เช่น การใช้สารเคมีทำการเกษตรและปล่อยลงสู่แหล่งน้ำ การทำฝายกั้นทางน้ำทำให้เกิดการทับถมของตะกอน การพบเห็นเต่าปูลูในพื้นที่ จึงเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ
ในประเทศไทยพบเต่าปูลูเฉพาะในพื้นที่อนุรักษ์บางแห่งเท่านั้น แม้ว่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง - ชนแดน (Wangpong-Chondaen Non - Hunting Area) จะพบเต่าปูลูหลายครั้ง แต่ก็ตื่นเต้นทุกครั้งเมื่อได้พบเห็นเต่าชนิดนี้ตัวเป็นๆ ซึ่งครั้งนี้เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. 66 ได้รับรายงานจากการลาดตระเวนเชิงคุณภาพ SMART Patrol ว่าพบลูกเต่าปูลูที่ระดับความสูง 800 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จึงได้จับนำมาตรวจสอบ วัดขนาด พบว่าเป็นลูกเต่าปูลูเพศเมีย ขนาดยาว 14 ซม. (ปลายหัว - ปลายหาง) จากนั้นได้นำไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่ห่างไกลจากชุมชน
เต่าปูลู เป็นเต่าขนาดเล็ก หนักประมาณครึ่งกิโลกรัม กระดองเล็กแบน หัวโตหดเข้ากระดองไม่ได้ ปากคมแข็งแรงคล้ายปากนกแก้ว ขาใหญ่หดเข้ากระดองไม่ได้เช่นกัน ปลายเท้ามีเล็บสามารถปีนขึ้นขอนไม้หรือก้อนหินได้ หางยาวได้มากกว่ากระดอง มีเดือยแหลมอยู่ระหว่างขาและก้นข้างละอัน กระดองสีน้ำตาลเข้ม เมื่ออายุน้อยส่วนหัวมีสีออกส้ม เมื่อโตขึ้นหัวค่อยเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแก่ สามารถปีนต้นไม้สูงได้ดีมาก ตอนกลางวันจะปีนต้นไม้เพื่อผึ่งแดด แต่จะออกหากินในเวลากลางคืนเป็นเต่าที่มีนิสัยดุ ถ้าจับกระดองเต่าอาจยืดคอแว้งกัดเอาได้ ฉะนั้น การจับเต่าชนิดนี้ให้จับที่โคนหางยกขึ้น เต่าปูลูชอบอาศัยอยู่ตามลำธาร ตามภูเขา ชอบน้ำใสเย็นที่ไหลอยู่เสมอ อาหารของเต่าปูลู คือ กุ้ง หอย ปู ปลา กบ เขียด และใส้เดือน
ที่มา : เขตห้ามล่าสัตว์ป่าวังโป่ง-ชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์